GPS Navigator คือ ระบบนำทางซึ่งในปัจจุบันเราจะพบมากทั้งในมือถือ PDA หรือแม้กระทั่งในรถยนต์ที่มีการเสริมในส่วนของระบบนำทางเข้าไป ซึ่งระบบ GPS Navigator นั้น โดยทั่วไปจะมีวิธีการเหมือนกัน ดังนี้
ระบบ GPS Navigator นั้น จะใช้ดาวเทียมในการส่งค่าเพื่อคำนวณตำแหน่งและพิกัดโดยใช้ตัวรับสัญญาณ GPS เพื่อเป็นการบอกตำแหน่งที่อยู่บนพิกัดโลก ซึ่งใช้ในการคำนวณจากตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันไปยังจุดหมายปลายทาง ซึ่งจะใช้งานร่วมกับ “ระบบแผนที่”
โดยการใช้วิธีจับคู่ตำแหน่งต่างๆ
ที่อ่านได้จากดาวเทียมกับค่าพิกัดในระบบแผนที่
ทั้งนี้อาจอาศัยเซ็นเซอร์อื่นๆ
ช่วยในการคำนวณระยะทางที่เดินทางได้แน่นอนขึ้น
ระบบแผนที่
ระบบแผนที่ คือ แผนที่ที่ใช้ในระบบนำทางหรือ GPS Navigator ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีมาตรฐานอย่างเป็นทางการส่วนใหญ่แผนที่ที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปจะมาจาก 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ คือ แผนที่จากบริษัทนาฟเทค (NavTeq)
และจากบริษัทเทเลเอตลาต (Tele Atlas) แต่นอกจาก 2 บริษัท
นี้ก็ยังมับริษัทอื่นๆ อีก แต่ไม่เป็นที่นิยม
เนื่องจากข้อมูลของแผนที่แต่ละประเทศมีขนาดข้อมูลมหาศาลและใช้เนื้อที่ในการ
เก็บขนาดใหญ่
ทำให้ไม่สามารถนำข้อมูลทุกอย่างที่เพื่อใช้ในซอฟต์แวรฺ์ของระบบนำร่องได้
จึงได้มีการนำข้อมูลแผนที่นั้นมาทำการจัดเรียงใหม่เพื่อความเหมาะสม
เพื่อประโยชน์ในเรื่องขนาดของแผนที่
ที่ต้องนำไปใช้ตลอดจนความรวดเร็วในการเข้าอ่านและประมวลผลข้อมูล
โดยในยุคสมัยนี้เมื่อมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยขึ้น
สิ่งที่อำนวยความสะดวกก็มักจะล้ำสมัยขึ้น
ทุกวันนี้เราจะเห็นได้ว่ามีเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาอย่างมากมาย
โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับเครื่องมือการสื่อสาร
เวลาที่เราจะเดินทางไปไหนเราก็มักจะใช้เครื่องมือสื่อสารเป็นตัวช่วยอยู่
เสมอ ที่สำคัญเมื่อเราจะเดินทางนั้นเราก็ต้องรู้เส้นทางในการเดินทาง
แต่คงไม่มีใครอยากขับรถไปดูแผนที่ในมือถือหรือหยิบแผนที่ขึ้นมากางหรอกจิง
ไหม? เพราะในยุคนี้เป็นยุคเทคโนโลยีไปแล้ว ทุกคนจึงต่างหาจีพีเอสนำทางเพื่อติดรถยนต์ของตัวเองเพื่อช่วยในการนำทางและตรวจสอบเส้นทางจราจรก่อนเดินทาง ที่สำคัญเมื่อท่านมีจีพีเอสนำทางแล้ว ไม่เพียงแค่นำทางเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จีพีเอสนำทางของท่านจะช่วยเป็นหูเป็นตาให้ท่านได้อีกด้วยเมื่อท่านติดอุปกรณ์เสริมกล้องติดรถยนต์เพื่อไว้ใช้เป็นหลักฐานในกาเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย เห็นไหมว่าจีพีเอสนำทางมีประโยชน์มากมายแค่ไหน สำหรับท่านใดที่สนใจเครื่องจีพีเอสนำทาง ท่านสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.GPSsociety.com
วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557
วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557
8 ข้อควรรู้ ก่อนทำประกันชีวิต
ประกันชีวิตนั้นถือเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรามั่นคงเพื่อที่จะวางแผนให้กับอนาคตของตัวเอง
และในปัจจุบันนี้ประกันชีวิตก็ไม่ได้มีราคาแพงเหมือนเมื่อก่อนและมีตัวเลือกให้เราได้เลือกสรรมากมาย
วันนี้เรานำเคล็ดลับดีๆ มาแนะนำ เพื่อที่จะได้เลือกที่ทำประกันชีวิตให้เหมาะสมกับตัวของคุณ
1. กำหนดค่าคุ้มครองที่คุณต้องการ ควรที่จะคิดถึงความต้องการที่คุณจำเป็นจะต้องใช้ประกันชีวิตมากเท่าไหร่ ทำประกันชีวิตแล้วมันคุ้มค่าไหม? เพราะมันดีเสมอถ้ามีความคุ้มครองที่ครอบคลุม แต่พิจารณาถึงข้อเสนอที่ดีและมีเหตุผล ลองคิดถึงภาระหน้าที่และการเงินของตัวคุณ
รวมไปถึงครอบครัวด้วย และควรทำกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ครอบคลุมเงินเดือนประจำปีของคุณเป็นเวลา
อย่างน้อย 20 ปี ถ้าคุณมีลูกที่ต้องส่งเสียเลี้ยงดู
2. ตรวจเช็คสุขภาพของคุณให้ดีก่อนทำประกัน เป็นสิ่งที่ดีที่เราควรที่จะตรวจเช็คร่างกายก่อนที่จะลงมือทำกรมธรรม์ประกันชีวิต
เพราะถ้าคุณมีสุขภาพที่ไม่ค่อยดีคุณอาจจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ
และอาจจะถูกริดรอนสิทธิอะไรได้ เช่น ถูกลดดอกเบี้ยประกันเป็นต้น
3. รู้จักการเปรียบเทียบ เป็นวิธีที่เหมือนเป็นสิ่งสามัญที่สุดในการซื้ออะไรซักอย่าง
เช่น ซื้อรถ หรือ บ้าน การเปรียบเทียบประกันชีวิตของอีกที่กับอีกที่เป็นสิ่งที่ดี เพราะเราจะได้หาบริษัทประกันที่เหมาะสมกับชีวิตของเราได้
อีกทั้งยังหาผลประโยชน์ที่ดีกว่าให้ชีวิตตัวเองได้อีกด้วย
4. อ่านข้อตงลงและสัญญาให้ถี่ถ้วน เพราะมันอาจจะมีการซ่อนค่าใช้จ่ายในการปรับขั้นอัตราดอกเบี้ยประกันภัยแฝงอยู่
โดยที่ทางบริษัทไม่ได้เปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน
5. ตามให้ทันนโยบายของบริษัท ต้องแน่ใจว่าผลประโยชน์และนโยบายของบริษัทประกันชีวิตนั้นๆ
ยังตรงกับความต้องการของคุณรึเปล่า มันไม่ผิดถ้าคุณจะซื้อประกันเพิ่ม
เมื่อคุณซื้อรถหรือบ้านหลังใหม่ หรือคุณแต่งงาน
แต่ควรที่จะใช้ประกันที่ครอบคลุมที่สุด
6. อย่าพลาดในการชำระเงิน ในทางที่ดีเราไม่ควรที่จะพลาดการชำระเงินค่าประกันเลยซักครั้งเพื่อประวัติที่ดี
เพราะในบางครั้งการพลาดการชำระเงินเพียงครั้งเดียว เพราะคุณอาจจะต้องเสียดอกเบี้ย
ซึ่งมันไม่คุ้มค่า
7. ทำประกันเมื่อคุณยังมีอายุที่ไม่มาก
ซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตเมื่อคุณอายุน้อยกว่าและจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง
ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเมื่อไปทำประกันเมื่อมีอายุมากขึ้น และอาจจะต้องเสียเงินมากขึ้น
8. ศึกษาข้อมูล ถ้าคุณจ่ายเงินทุกๆ เดือนให้กับบริษัทประกันแล้ว
เราก็สามารถที่จะเข้าไปขอข้อมูลได้ ว่าคุณต้องการอะไรซึ่งมันจะทำให้คุณประเมินสถานการณ์ของคุณเองได้
ว่าคุณต้องการประกันแบบไหนเพื่อรองรับการใช้ชีวิตของคุณ เพราะประกันมีหลายแบบ
ไม่ว่าจะเป็น ประกันเดินทาง ประกันสุขภาพ เป็นต้น
ซึ่งเจ้าหน้าที่ของทางประกันจะสามารถให้ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้กับคุณได้
ข้อควรรู้ก่อนที่คุณจะเลือกทำประกันชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นอีกทางเลือกของการออม
และยังได้การประกันที่ดูแลคุณตลอดชีวิต ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจ
Credit: Sanook
money
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)